นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (Bangkok Gems and Jewelry Fair) ครั้งที่ 68 ณ ห้อง Plenary Hall ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) โดยงานมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-10 กันยายน 2566 ณ Hall 1-8 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับ แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT และสนับสนุนโดยองค์กรภาคเอกชนอีกกว่า 15 องค์กร
นายภูสิต กล่าวว่า “Bangkok Gems and Jewelry Fair เป็นงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งงานที่ช่วยตอกย้ำความแข็งแกร่งของประเทศไทยในฐานะจุดหมายด้านการค้าอัญมณี และเครื่องประดับระดับโลก ซึ่งความสำเร็จตลอด 40 ปีที่ผ่านมาเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี และเช่นเคยในปีนี้งานบางกอกเจมส์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ซื้อและผู้ขายที่มาร่วมงานโดยมีผู้ประกอบการสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับมาจัดแสดงสินค้าจำนวน 1,100 บริษัท พื้นที่ 2,400 คูหา จัดแสดงเต็มพื้นที่ Hall 1-8 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุด นับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 30,000 ราย และคาดว่าจะสร้างมูลค่าการค้าได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท”
งาน Bangkok Gems and Jewelry Fair เป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย ที่จัดมาอย่างยาวนานที่สุดในเอเชีย และเป็น 1 ใน 5 งานแสดงสินค้าอัญมณีและ เครื่องประดับที่สำคัญของโลก ถือเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการขับเคลื่อนการส่งออกอัญมณีและ เครื่องประดับไทย ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมส่งออกสำคัญที่สร้างรายได้มหาศาลเข้าประเทศ จากจุดเด่น ของประเทศไทยในด้านการเป็นแหล่งค้าอัญมณีสำคัญของภูมิภาค บวกกับความชำนาญในการ ปรับปรุงคุณภาพพลอยสี และแรงงานฝีมือที่มีทักษะเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยในช่วง 7 เดือน แรกของปี 2566 การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่า 1.67 แสนล้านบาท เติบโตร้อยละ 11.62 โดยคาดการณ์เป้าส่งออกปี 2566 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10”
ด้านนายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผอ.สถาบันอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT กล่าวว่า ภายในงานมีการจัดแสดงสินค้าของผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ และมีไฮไลต์ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ งาน Networking Reception เพื่อสร้างพันธมิตรทางการค้าระหว่างผู้จัดแสดงสินค้าและ บายเยอร์ และผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง นิทรรศการ “The Magnificent 40-Year Journey of Brilliance” ที่นำเสนอความยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ตลอดระยะ เวลา 40 ปี นิทรรศการ The Jewellers โซน New Faces จัดแสดงสินค้าจากผู้ประกอบการ หน้าใหม่ รวมถึงกิจกรรมสัมมนาต่าง ๆ ทั้งด้านเทคนิคและการตลาด
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมคู่ขนานสำคัญจำนวนมาก ได้แก่ การจัดงานประชุม World Gold Council ซึ่งจะมีผู้ประกอบการด้านทองคําจากทั่วโลกมาร่วม ในงาน การจัดงาน Networking ของสมาชิก ICA (สมาคมพลอยสีโลก) ในประเทศไทย การจัดงานประชุมและกําหนดมาตรฐานสีพลอย Corundum โดย Asia-Pacific Gemstone and Technology Standardization Alliance (AGA) การประชุม ความคืบหน้า และกิจกรรมของ Asean Gems and Jewelry Association (AGJA) ซึ่งทำให้งาน บางกอกเจมส์ นอกจากจะเป็นเวทีเจรจาการค้าแล้วยังเป็นแหล่งสร้างพันธมิตรและแหล่งรวมองค์- ความรู้ ในด้านต่างๆ แบบครบวงจร ตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางการค้าและการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลกอย่างแท้จริง
ความสำเร็จของการจัดงานครั้งนี้เป็นผลจากการผนึกกำลังของพันธมิตรกว่า 15 องค์กร ได้แก่ สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ สมาคมค้าทองคำ สมาคมช่างทองไทย สมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี สมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทย สมาคมเพชรพลอยเงินทอง สมาคมผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี สมาคมผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับไทย สมาคมผู้ค้า พลอยไทย สมาคมเครื่องถมและเครื่องเงินไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมการค้าเพชรและพลอยอินเดีย-ไทย สมาคมธุรกิจทองคำ ฯลฯ
งาน Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 68 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6–10 กันยายน 2566 ณ ฮอลล์ 1 – 8 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bkkgems.com หรือ facebook.com/Bangkokgemsofficial