วันนี้ #PRINSIDE ขอพาทุกท่าน ไปพบกับ “ความงามที่มากกว่าผิวหน้า”
ใเทรนด์ความงามจะเน้นที่การดูแลสุขภาพจากภายในมากกว่าการบำรุงเฉพาะผิวหน้า อุตสาหกรรมความงามในประเทศไทยและทั่วโลกจะให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างสุขภาพร่างกายและจิตใจผ่านอาหารและวิถีชีวิตที่ดี ส่งผลให้แนวคิดความงามแบบองค์รวม (holistic beauty) ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ผู้บริโภคจะเลือกผลิตภัณฑ์และบริการที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสุขภาพผิว ผม และร่างกายจากภายในโดยการเลือกกินอาหารเสริม หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมี
ในประเทศไทย แนวคิดนี้เริ่มเห็นได้จากแบรนด์ความงามที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนประกอบจากธรรมชาติ ปราศจากสารพิษ และเน้นบำรุงลึกลงไปถึงสุขภาพภายใน เช่น อาหารเสริมที่ช่วยบำรุงผิว ผม และเล็บ รวมถึงบริการด้านความงามที่ผสมผสานการนวด การฝังเข็ม หรือการทำสปาแบบองค์รวม ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมความงามภายนอกแล้วยังสร้างสมดุลทางจิตใจและสุขภาพอีกด้วย
ประเทศที่เป็นตัวอย่างในแนวคิดนี้ ได้แก่:
1. ญี่ปุ่น: ญี่ปุ่นมีแนวคิดเรื่อง “Ikigai” หรือการค้นหาความหมายในการมีชีวิต ส่งผลให้ผู้คนใส่ใจในการดูแลสุขภาพและความงามจากภายใน อาหารที่นิยม เช่น “ชาเขียวมัตฉะ” ซึ่งเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยชะลอวัย รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอย่าง “สาหร่าย” ในการบำรุงผิว
2. เกาหลีใต้: เทรนด์ความงามแบบ K-beauty ยังคงมีอิทธิพลทั่วโลก เกาหลีใต้เน้นการดูแลสุขภาพจากภายในผ่านอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เช่น “โสมเกาหลี” ที่เชื่อว่าช่วยเสริมสร้างพลังงานและบำรุงผิวให้สดใส นอกจากนี้การใช้เทคนิคความงามที่รวมถึงการทำสมาธิและการนวดหน้าก็เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยม
3. ฝรั่งเศส: ผู้บริโภคชาวฝรั่งเศสมีแนวคิดเรื่องความงามที่เรียบง่าย โดยให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพจากภายในเช่นกัน อาหารเช่น “โยเกิร์ต” และ “น้ำมันมะกอก” ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกายและผิวหนังถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อส่งเสริมสุขภาพและความงาม
ขอบคุณข้อมูลจาก
Forbes, “Beauty Trends 2024: Inside-Out Beauty and Holistic Wellness,” 2023