วันนี้ #PRINSIDE ขอพาทุกท่าน ไปพบกับ
“การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์”
การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ หรือ Experiential Travel กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก นักท่องเที่ยวไม่ได้มองหาการพักผ่อนเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องการสร้างประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและมีความหมาย การท่องเที่ยวในรูปแบบนี้มุ่งเน้นให้ผู้คนได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างแท้จริง ผ่านกิจกรรมที่มีส่วนร่วมและเสริมสร้างความรู้ เช่น การเรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้าน การทำอาหารท้องถิ่น หรือการเข้าร่วมเทศกาลที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละพื้นที่
ประเทศไทย: เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมในด้านการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่และภูเก็ต ที่มีโปรแกรมท่องเที่ยวที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้การทำอาหารไทย การฝึกสมาธิแบบไทย หรือการเข้าร่วมพิธีทางศาสนา นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงเกษตร เช่น การปลูกข้าวหรือการเก็บสมุนไพรที่เน้นการมีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น
ประเทศที่เป็นตัวอย่างในแนวคิดนี้ ได้แก่:
1. ญี่ปุ่น: ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่โดดเด่นในด้านการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม เช่น การฝึกทำชาเขียวแบบ “ชาโนยู” หรือการแต่งชุดกิโมโนเพื่อเยี่ยมชมวัดและสถานที่สำคัญ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับวิถีชีวิตชนบทของชาวญี่ปุ่นโดยการเข้าพักที่บ้านพักโฮมสเตย์
2. อิตาลี: อิตาลีเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในด้านการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ โดยเฉพาะในแถบทัสคานี ที่นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้การทำไวน์ การทำพาสต้าสด หรือการเยี่ยมชมฟาร์มมะกอกเพื่อเรียนรู้ขั้นตอนการผลิตน้ำมันมะกอก นอกจากนี้ ยังมีการเปิดให้เข้าร่วมเทศกาลท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับอาหารและไวน์ที่เป็นเอกลักษณ์
3. เปรู: การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ในเปรูมักเน้นไปที่การเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมพื้นเมือง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมทริปเดินทางไปยัง Machu Picchu หรือเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวอินคาโบราณผ่านการทำอาหารพื้นเมือง เช่น “Ceviche” และการเก็บสมุนไพรท้องถิ่นที่ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา
เทรนด์การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์นี้เน้นการสร้างคุณค่าและความทรงจำที่ลึกซึ้ง ทำให้นักท่องเที่ยวได้เชื่อมต่อกับวัฒนธรรม สังคม และธรรมชาติของจุดหมายปลายทางได้อย่างมีความหมาย
ขอบคุณข้อมูลจาก
UNWTO, “Sustainable Tourism and Experiential Travel Trends 2024,” 2023