“การลาจากที่ไม่คาดคิด สูญเสียเสาหลักของบริษัท การบริหารโดยการทําตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี”
ไม่มีมนุษย์ผู้ใดหนีความตายพ้น แม้จะรู้อยู่แก่ใจ แต่การจากไปของคุณพ่อเทียมนั้นกะทันหันเกินไป
วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2534 ครอบครัวโชควัฒนาหลายคนรวมถึงพ่อของฉันไปรวมตัวกัน ที่รีสอร์ทที่พัทยา ฉันและพี่น้องเข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟที่จัดโดยธนาคารไทยพาณิชย์ พ่อของฉันไม่เล่นกอล์ฟ แต่มาเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงหลังการแข่งขันเท่านั้น
กรรมการอิสระที่อยู่กับพ่อเล่าว่า จู่ ๆ พ่อก็หมดสติ และล้มลงหลังจากรับประทานอาหารกลางวัน ที่โรงแรม ท่านถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงทันที ฉันได้ทราบข่าวระหว่างการเล่นกอล์ฟ แต่ปกติพ่อ เป็นคนแข็งแรง ฉันจึงคิดว่าพ่อคงแค่เหนื่อยนิดหน่อย ก็เลยเล่นกอล์ฟต่อไปจนจบ
ทันทีที่ฉันไปถึงโรงพยาบาลหลังจากเล่นกอล์ฟเสร็จ ฉันจึงพบว่าไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแล้ว แพทย์ ผลัดกันปั๊มหัวใจให้พ่อ ทั้งครอบครัวมารวมตัวกันที่โรงพยาบาล ความพยายามเกือบสองชั่วโมงไม่เป็นผล ท่านสิ้นลมด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
พ่อเพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบ 75 ปี เมื่อ 5 วันก่อน ที่โรงแรมดุสิตธานี พวกเราทั้งครอบครัวได้ร่วม รับประทานอาหารด้วยกัน นอกจากนั้นคุณพ่อยังได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานฉลองครบรอบ 100 ปีของ Lion และมีแผนเดินทางไปญี่ปุ่นในวันที่ 7 กรกฎาคม ตั๋วเครื่องบินและวีซ่าถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งพ่อก็ ตั้งใจจะไปเยี่ยม “เคียวโก” ในโอซาก้า หลังจากห่างหายไปนาน
พ่อไม่มีโรคประจําตัว ไม่มีทีท่าว่าจะป่วย การสนทนากันครั้งสุดท้าย คือ ที่โรงแรมดุสิตธานีในงาน วันเกิด ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ แม้แต่เนื้อหาที่คุยกันวันนั้นก็ยังจำไม่ได้เลย
ร่างของพ่อถูกน่าไปบ่าเพ็ญกุศลที่วัดเทพศิรินทร์ ในกรุงเทพฯ เป็นเวลา 7 วัน ผู้คนหลายพันคน ทั้งมิตรสหายและคนรู้จัก รวมถึงผู้มีชื่อเสียงในวงการต่าง ๆ มาร่วมงานศพ คุณอานันท์ ปันยารชุน นายก รัฐมนตรีในขณะนั้น ก็เป็นหนึ่งในแขกที่มาร่วมงาน คุณอานันท์เคยเป็นนักการทูต และเป็นผู้บริหารระดับสูง ของกลุ่มสหยูเนี่ยนของน้าดำหริ ซึ่งคุณอานันท์ได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาล หลังจากที่ รัฐบาลของ พลเอกชาติชาย ชุณหวัณ ถูกโค่นล้มด้วยการทำรัฐประหาร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534
บริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นหลายบริษัทก็มาร่วมงาน หนึ่งในนั้น คือ คุณโคบายาชิ อัตสึชิ ประธานบริษัท Lion ที่ซึ่งตั้งใจมางานของพ่อโดยเฉพาะ
ย้อนกลับไปเมื่อ 35 ปีที่แล้ว คุณอัตสึชิ กลับมาจากเรียนต่อที่ต่างประเทศ ระหว่างเดินทางกลับ ญี่ปุ่นได้แวะที่กรุงเทพฯ และคุยกันถูกคอกับพ่อ เป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมมือกับบริษัทไลอ้อน ด้วยการเริ่ม สั่งซื้อยาสีฟัน ความห่วงใยของคุณอัตสึชิที่มีต่อพ่อผู้ล่วงลับของฉัน ทำให้ฉันรู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก
ฉันและพี่น้องยุ่งอยู่กับการรับรองแขกที่มาร่วมงานศพ ซึ่งตามธรรมเนียมจีนจะต้องไปเคารพศพทุก อาทิตย์ เมื่อครบ 100 วันจึงจะนำไปฝังที่สุสาน ในวันนั้นมีผู้มาร่วมงานส่งศพเป็นจํานวนมากซึ่งได้บันทึก ไว้ด้วยการถ่ายภาพมุมกว้าง ฉันติดภาพนั้นซึ่งมีความยาวถึง 3 เมตรไว้บนผนังบริเวณโถงทางเดินชั้นผู้บริหาร
หากถามว่าพ่อเป็นคนแบบไหน คงไม่สามารถอธิบายได้ในคำเดียว ท่านเป็นคนที่ทําให้ร้านขายของ เบ็ดเตล็ดที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งบนถนนในชุมชนชาวจีนของกรุงเทพฯ เติบโตขึ้นเป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ในรุ่น เดียวได้ ฉันซึ่งอยู่ใกล้ชิดได้เห็นการตัดสินใจและการบริหารงานอันเข้มงวดมาโดยตลอด ในฐานะนักธุรกิจแล้ว พ่อเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่และน่าเคารพนับถือมากที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียว
ทว่าในฐานะลูกชายแล้วพ่อเป็นคนที่ใจดีมาก ฉันปรึกษาเขาได้ทุกเรื่อง อะไรดีก็ว่าดี อะไรไม่ดี ก็บอกอย่างชัดเจน เพราะพ่อมีความอุตสาหะกับทุกเรื่อง คนรอบตัวทุกคนจึงอยากเดินตามท่าน สิ่งที่ฉันได้รับอิทธิพลมามากที่สุดคงจะเป็นเรื่อง การทำตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีกระมัง
หลังจากสูญเสียคุณพ่อที่เป็นเสาหลักแล้ว เครือสหพัฒน์จะเป็นอย่างไรต่อไป บริษัทในเครือ และ นอกเครือต่างให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง พวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่ต้องสร้างผู้สืบทอดให้แข็งแกร่งขึ้นโดยเร็ว
ประธานเครือสหพัฒน์
หมายเหตุ : บทสัมภาษณ์คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา
ในคอลัมน์ Watashi no Rirekisho (My Personal History)
หนังสือพิมพ์ Nihon Keizai Shimbun (Nikkei Newspaper)
July 2021