INSIDE-INTRENDS การ์ทเนอร์เผยเทรนด์10เทรนด์เทคโนโลยีปี2024 (ตอนที่ 1) 

**การ์ทเนอร์ (Gartner, Inc.) บริษัทวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของโลก

โดยใน วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 การ์ทเนอร์ได้เพิ่มบทบาทของบริษัทในประเทศไทย ด้วยการเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจสู่รูปแบบการดำเนินงานโดยตรงในประเทศไทย และได้จัดตั้งบริษัทการ์ทเนอร์ (ประเทศไทย) จำกัด**

โดย การ์ทเนอร์ Gartner เปิด 10 เทรนด์ Strategic Technology ปี 2024 ที่องค์กรต้องรู้ จะมีอะไรใหม่ มีอะไรน่าสนใจ วันนี้  #PRINSIDE ขอเสนอ ตอนที่ 1 จำนวน 5 เทรนด์ ไปติดตามกันได้เลยค่ะ

1. Democratized Generative AI 

ทุกคนจะเข้าถึง AI ได้มากขึ้น เพราะ Generative AI จะถูกพัฒนาให้มีความก้าวหน้าด้วย Model ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจากข้อมูลมากมาย, การประมวลผลแบบคลาวด์, และ Open source หรือซอร์ฟแวร์ที่ให้บริการฟรี และเปิดให้ทุกคนใช้และแก้ไขได้   

Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2026 ธุรกิจจะหันมาใช้งาน GenAI มากกว่า 80% เทียบกับยอดการใช้งานเมื่อต้นปี 2023 ที่มีผู้ใช้งานน้อยกว่า 5% ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงข้อมูลมากมายจากทั้งภายในและภายนอกบริษัทได้ และด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของ AI จะช่วยให้การพูดคุยและให้ข้อมูลอยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เป็นธรรมชาติ

2. AI TRiSM : AI Trust, Risk and Security Management  

ยิ่งผู้คนเข้าถึง AI ได้ในวงกว้าง ยิ่งทำให้ความน่าเชื่อถือ ความเสี่ยง และความปลอดภัยของ AI (AI TRiSM) เป็นเรื่องสำคัญ Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2026 องค์กรต่างๆ จะใช้มาตรฐาน AI TRiSM กับเทคโนโลยี AI เพื่อเป็นกฎเกณฑ์ในการใช้ AI อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ  

ทำให้ AI สามรถตัดสินใจได้ฉลาดขึ้น และกำจัดข้อมูลที่ไม่ถูกต้องออกไป ซึ่งกำจัดออกไปได้ถึง 80% เนื่องจากมี ModelOps (ชุดกฎเกณฑ์ที่กำหนดการใช้งาน AI), การปกป้องข้อมูลเชิงรุก, AI-Specific Security (มาตรการรักษาความปลอดภัยที่ออกแบบมาสำหรับระบบ AI), การตรวจสอบโมเดล AI, และการควบคุมความเสี่ยงสำหรับอินพุตและเอาต์พุตไปยังโมเดลและแอปพลิเคชันของบริษัทอื่น  

ถือเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญมาก เพราะหากไม่มีกฎเกณฑ์และการป้องกันเหล่านี้ ระบบ AI อาจก่อปัญหาที่เกินการควบคุม จนข้อเสียเหล่านี้ไปบดบังประโยชน์ที่แท้จริงของ AI

3. AI-Augmented Development 

การใช้เทคโนโลยี AI เพื่อช่วยวิศวกรซอฟต์แวร์ในการออกแบบ การเขียนโค้ด และการทดสอบแอปพลิเคชัน ซึ่งวิศวกรที่ได้ความช่วยเหลือจาก AI ก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ทีมจัดการกับความต้องการซอฟต์แวร์ทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นได้   

โดยเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI เหล่านี้ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการเขียนโค้ด ช่วยให้นักพัฒนามุ่งเน้นไปที่การสร้างแอปพลิเคชันทางธุรกิจที่สำคัญกว่า 

4. Intelligent Applications 

Gartner ให้คำจำกัดความไว้ว่า เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวได้ด้วยตัวเอง เพื่อการตอบสนองอย่างถูกต้องโดยไม่ต้องอาศัยคำแนะนำจากมนุษย์ ซึ่งเทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบอัตโนมัติได้ดียิ่งขึ้น  

ความฉลาดของมันเกิดจากการใช้งาน AI เช่น การเรียนรู้ของเครื่อง การเก็บเวกเตอร์ และข้อมูลที่เชื่อมต่อ ซึ่งจากการสำรวจ CEO และผู้บริหารธุรกิจอาวุโสของ Gartner ในปี 2023 กว่า 26% เผยว่า การขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถคือความเสียหายมากที่สุดสำหรับองค์กร ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า AI จะมีผลกระทบมากที่สุดต่ออุตสาหกรรมของพวกเขาในอีกสามปีข้างหน้า

5. Augmented-Connected Workforce (ACWF) 

หนึ่งในกลยุทธ์ที่ใช้เพิ่มมูลค่าแรงงานคนให้เกิดประโยชน์สูงสุด เนื่องจากธุรกิจต้องการพัฒนาให้พนักงานมีทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง ACWF ใช้ Intelligent Applications ร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูลของพนักงาน เพื่อให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่พวกเขาในการพัฒนาทักษะของตนเอง  

คาดว่าจนถึงปี 2027 Chief Information Officer (CIO) ประมาณ 25% จะใช้งาน Augmented-Connected Workforce เพื่อช่วยพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้มีทักษะการทำงานที่ดีขึ้น โดยใช้เวลาน้อยลง

ขอบคุณข้อมูลจาก techsauce

Related

Lastest