เชื่อหรือไม่ว่า ‘การทำอาหาร’ ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายทางอารมณ์ ลดความเครียดจากความวุ่นวายของโลกภายนอกได้ ซึ่งไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะ ‘Kitchen Therapy’ คือการบำบัดด้วยการเข้าครัวทำอาหาร ทั้งในทางการแพทย์ ยังเป็นที่ยอมรับว่าการลงมือทำอาหารเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยบำบัดจิตใจให้ดีขึ้นได้
หลาย ๆ คนบอกว่า การทำอาหารทำให้เกิดความภาคภูมิใจ และยังเป็นวิธีแสดงความคิดสร้างสรรค์อีกทางหนึ่ง โดยการถ่ายทอดความรู้สึกผ่านการทำอาหาร หยอดความสุขปรุงรสชาติลงไปในอาหารทุกจาน ส่วนอีกต่อของ ‘การทำอาหาร’ คือการสร้างความสุขให้กับคนที่ได้รับประทาน ทั้งกับครอบครัวและคนที่เรารักได้
ในส่วนของอาหารหลาย ๆ เมนูที่ถูกปากถูกใจมักจะมีส่วนผสมจากผงชูรส (โมโนโซเดียมกลูตาเมต) แทบทั้งสิ้น เพื่อเพิ่มรสชาติความอูมามิให้กับอาหารมื้อหลักได้ชูรสความอร่อยแบบกลมกล่อม โดยไม่ต้องใช้เครื่องปรุงเสริมอย่างอื่น ซึ่งผงผลึกสีขาวที่เราต่างคุ้นเคยกันดี และรู้จักกันในชื่อ “ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ” ถือว่าเจ้าผงนัวที่ว่านี้ได้อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่น พร้อม ๆ กับความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผงชูรสของหลาย ๆ คน เช่นกัน ซึ่งแท้จริงแล้วการเลือกใช้ผงชูรสสำหรับการปรุงอาหารในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากช่วยปรุงรสชาติให้อร่อยนัวขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ได้รับกรดอะมิโนที่เป็นผลดีต่อร่างกายอย่างเพียงพอ ซึ่งกรดอะมิโนจำเป็นมีความสำคัญต่อร่างกายหลายด้าน อาทิ สังเคราะห์โปรตีน เสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ต่อยอดแนวคิด ตลอดจนสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุดจากการปรุงอาหารสร้างสรรค์รสชาติด้วยผงชูรส พร้อมเจาะกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจเกี่ยวกับการทำอาหารโดยเฉพาะ ผ่านโครงการ ‘Ajinomoto Young Chef Thailand’ เพื่อเฟ้นหาคนรุ่นใหม่ที่มีแพชชันด้านการทำอาหาร โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “โซเดียมน้อยลง แต่ยังคงความอร่อย” สอดคล้องกับพันธกิจของอายิโนะโมะโต๊ะที่ต้องการแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับอาหารและสุขภาพของผู้คนในสังคม รวมถึงการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนที่จะช่วยส่งผลดีต่อชีวิตของผู้คนในระยะยาว และวางเป้าหมายในการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ในฐานะ ผู้นําไปสู่การสร้างความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน (Leading in the Creation of Well-Being) และมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับทุกคนในสังคม ด้วยการใช้พลังของกรดอะมิโนซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญหลักของอายิโนะโมะโต๊ะ ตามสโลแกนขององค์กรที่ว่า กินดี มีสุข: กินดีด้วยโภชนาการที่ดีขึ้น มีสุขด้วยสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น (Eat Well, Live Well”: Eat well with better nutrition, Live well with a better environment) พร้อมสร้างสรรค์โครงการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับผู้คน ชุมชน และสังคม อย่างยั่งยืน
จากที่ผ่านมา โครงการ ‘Ajinomoto Young Chef Thailand’ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในวงกว้าง โดยมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ มากมาย และคัดเลือกเหลือเพียง 8 ทีมสุดท้าย เพื่อเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ถึงแม้ว่ารางวัล ‘The Top Winner Young Chef Thailand’ จะตกเป็นของทีม Carrot Size Cube จากวิทยาลัยดุสิตธานี แต่ทุกทีมที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ล้วนแล้วแต่มีศักยภาพและชูไอเดียกันอย่างเต็มเปี่ยมตลอดระยะเวลาของการแข่งขัน ด้วยการคิดค้นและรังสรรค์เมนูอาหารที่น่าสนใจได้อย่างขับเคี่ยวและเข้มข้น นับได้ว่าเป็นการแข่งขันที่อบอุ่น เพราะทุกทีมต่างมองว่าไม่ใช่คู่แข่งของกันและกัน แต่คือผู้ที่มีอุดมการณ์และความฝันร่วมกัน ซึ่งนอกจากผู้เข้าแข่งขันทุกทีมจะได้รับความประทับใจและโอกาสที่เพิ่มประสบการณ์ในการสร้างสรรค์เมนูอาหาร การปรุงรสชาติอาหารแล้ว ยังได้รับความรู้ที่ทางอายิโนะโมะโต๊ะมอบให้ คือเทคนิคการทำอาหารให้อร่อยแต่โซเดียมน้อยลงด้วยการใช้ผงชูรส ซึ่งเป็นหนึ่งในไอเดียและแนวคิดหลักของโครงการฯ โดยมุ่งหวังให้การต่อยอดโครงการฯ ในครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำอาหารของใครหลาย ๆ คนไม่มากก็น้อย ไปพร้อม ๆ กับการสื่อสารและยกระดับการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ โครงการ Ajinomoto Young Chef Thailand ยังทำให้มองเห็นถึงศักยภาพและพลังของคนรุ่นใหม่ที่ต่างขับเคลื่อนด้วยแพชชัน แรงบันดาลใจ และความมุ่งมั่นในการรังสรรค์เมนูอาหาร สร้างสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับสังคมไทย ยังเป็นจุดเริ่มต้นให้คนในแวดวงอาหารได้หันมาใส่ใจพฤติกรรมการปรุงอาหารอย่างถูกวิธีผ่านความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยคนรุ่นใหม่จะกลายเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี ในการสรรค์สร้างอาหารที่ดีมีประโยชน์ เพื่อสุขภาพที่ดี และความเป็นอยู่ที่ดี ให้กับสังคมไทยในอนาคตต่อไป
กลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับทุกคนในสังคมด้วยการใช้พลังของกรดอะมิโนซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญหลักของเรา ตามสโลแกนขององค์กรที่ว่า “กินดี มีสุข: กินดีด้วยโภชนาการที่ดีขึ้น มีสุขด้วยสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น” (Eat Well, Live Well”: Eat well with better nutrition, Live well with a better environment) โดยเราได้สร้างสรรค์โครงการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับผู้คน ชุมชน และสังคม อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทได้ที่ Facebook Fan page: Ajinomoto Home Cooking และ Website: www.ajinomoto.co.th