บันยันกรุ๊ป ประกาศเปิดขาย Lakeview Residences คอนโดมิเนียม 7 ชั้น วิวทะเลสาบอาคารสุดท้าย ภายใต้โครงการลากูน่า เลคแลนด์ ตอบรับความต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้น

เฟสหนึ่งของโครงการซึ่งมีมูลค่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 7 หมื่นล้านบาทไทย ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รายงานยอดขายที่แข็งแกร่งจากผู้ซื้อทั่วโลก

ลากูน่า เลคแลนด์ ภายใต้กลุ่มบริษัทบันยันกรุ๊ป เป็นโครงการแห่งใหม่ในภูเก็ตที่มุ่งเน้นเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและหวังตอบโจทย์ตลาดภายในประเทศที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สองบนเกาะภูเก็ตอันมีชื่อเสียงที่เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของคนทั่วโลก โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้ประกาศเปิดขาย เลควิว เรสซิเดนซ์ (Lakeview Residences) ซึ่งเป็นอาคารสุดท้ายในเฟสหนึ่งสู่ตลาด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โครงการเลควิว เรสซิเดนซ์ เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 7 ชั้น ประกอบด้วยห้องแบบ 1-3 ห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำสุดอลังการบนชั้นดาดฟ้า โดยบริษัทฯได้ประกาศเปิดขายก่อนกำหนด เนื่องจากความต้องการในตลาดที่พุ่งขึ้นสูงมาก ด้วยราคาเริ่มต้นที่ไม่ไกลเกินเอื้อมเพียง 7 ล้านบาท ทำให้เลควิว เรสซิเดนซ์ ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อทั่วโลกในระยะเวลาอันรวดเร็ว ผู้สนใจสามารถเข้าชมห้องตัวอย่างได้ที่ Laguna Lakelands Sales Gallery ตั้งอยู่ติดกับ Laguna Phuket

นอกจากนี้ เจ้าของวิลล่า และเรสซิเดนซ์ในโครงการ ลากูน่า เลคแลนด์ ยังได้รับสิทธิเข้าใช้ บีชคลับ (Beach Club) คลับส่วนตัวติดชายหาดสุดชิคแห่งใหม่ ที่มีกำหนดการเริ่มก่อสร้างในเดิอนมิถุนายนนี้อีกด้วย

ลากูน่า เลคแลนด์ เป็นโครงการที่พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทบันยันกรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ชื่อดังอย่าง ‘บันยันทรีรีสอร์ท’ ที่มีความโดดเด่นและเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในเอเชีย โดยโครงการตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันตกตอนกลางของภูเก็ตติดกับลากูน่า ภูเก็ต ซึ่งเป็นรีสอร์ทแบบครบวงจรชั้นนำอีกแห่งของเอเชีย

ลากูน่า เลคแลนด์ ตั้งอยู่บนพื้นที่มากกว่าหนึ่งล้านตารางเมตร (700 ไร่หรือ 276 เอเคอร์) ท่ามกลางสวนพฤกษศาสตร์ สวนสาธารณะ ป่าฝน ทะเลสาบและเนินเขาอันเงียบสงบ โดยโครงการได้รับการตั้งเป้าให้เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต และได้รับการออกให้เป็นโครงการชุมชนวงจรสำหรับผู้ที่แสวงหาไลฟ์สไตล์คุณภาพสูงที่ยังมีความสมดุลตามธรรมชาติอยู่ครบถ้วน

โครงการนี้ถูกสร้างขึ้นมาในจังหวะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตกำลังเติบโต โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มครอบครัวในทั่วทุกมุมโลก ที่ไม่เพียงแต่ต้องการบ้านพักตากอากาศแบบส่วนตัวในช่วงวันหยุดในภูเก็ตเท่านั้น แต่ยังต้องการย้ายมาอยู่อาศัยเป็นบ้านหลังหลักอีกด้วย

มร. โฮ กวง ปิง หรือเคพี โฮ ผู้ก่อตั้งและปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของบันยันกรุ๊ป กล่าวว่า
“กระแสตอบรับจากโครงการนี้ดีเกินความคาดหมายเราอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในมุมมองที่ผู้คนมีต่อเมืองภูเก็ต จากที่เคยเป็นเพียงสถานที่ที่น่าเยี่ยมชม สู่สถานที่ที่น่าอยู่อาศัย ทั้งสำหรับกลุ่มคนที่มองหาบ้านพักหลังที่สอง ไปจนถึงกลุ่มที่ต้องการย้ายมาปักหลักเป็นที่อยู่อาศัยหลักอีกด้วย”

“อสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงในภูเก็ตยังคงมีราคาต่ำกว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์อื่นอยู่มาก เช่นฮ่องกง สิงคโปร์ หรือยุโรป ซึ่งนี่ก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน” คุณเคพี กล่าวเสริม

ภูเก็ตเป็นเมืองที่มีสภาพอากาศที่น่าดึงดูดเอื้อต่อกิจกรรมกลางแจ้งตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีโรงเรียนนานาชาติและโรงพยาบาลระดับโลกมากมาย บวกกับที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่มีข้อได้เปรียบ ห่างจาก 40% ของประชากรโลกโดยสามารถบินตรงในเวลาเพียง 4-5 ชั่วโมง ทำให้ภูเก็ตเป็นที่น่าดึงดูดและได้รับความนิยมมากมาย

นอกจากนี้ โครงการยังมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ คือการซื้อแบบผ่อนชำระ ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินให้กับผู้ซื้อได้แบ่งการชำระเงินออกเป็นหลายงวด

ที่มา: โทเทิลควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย)

Related

Lastest