บลจ.ไทยพาณิชย์ ส่งเสริมภารกิจสร้างความมั่นคงทางการเงิน ชวนออมเงินผ่านกองทุนรวม เพื่อพิชิตเป้าหมายร่วมกับ “โครงการออมเบอร์ 5”

บลจ.ไทยพาณิชย์ ส่งเสริมภารกิจสร้างความมั่นคงทางการเงิน ชวนออมเงินผ่านกองทุนรวม เพื่อพิชิตเป้าหมายร่วมกับ “โครงการออมเบอร์ 5” พร้อมโอกาสรับ Fund Back สูงสุด 10,000บาท

นางสาวศุภรัตน์ อารีย์วงศ์ Executive Director กลุ่มกลยุทธ์การตลาดและผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด (“SCBAM”) เปิดเผยว่า SCBAM เล็งเห็นความสำคัญต่อการวางแผนเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน และมองว่าการลงทุนในกองทุนรวมเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่สามารถนำไปสู่เป้าหมายได้ SCBAM จึงได้มีภารกิจส่งเสริมผู้ลงทุนหน้าใหม่ และ/หรือ คนวัยทำงานที่ยังไม่เคยลงทุนในกองทุนรวมกับ SCBAM และมีความตั้งใจสร้างวินัยสะสมเงินออมและมีเป้าหมายการลงทุน ผ่าน “โครงการออมเบอร์ 5” ซึ่งจัดโดย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดย SCBAM พร้อมมอบหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) มูลค่า 500 บาท และสูงสูดไม่เกิน 10,000 บาท ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการที่สามารถพิชิตภารกิจการออมกับโครงการฯ ได้สำเร็จ

นางสาวศุภรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการออมเบอร์ 5” เป็นโครงการที่เสริมสร้างให้คนไทยเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมที่สามารถเป็นทางเลือกในการออมจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต ซึ่งการเข้าร่วม “โครงการออมเบอร์ 5” กับทาง SCBAM นั้นสามารถทำได้ไม่ยาก โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการต้องเป็นนักลงทุนที่ยังไม่เคยมีบัญชีกองทุนของ SCBAM โดยสามารถเปิดบัญชีกองทุนครั้งแรกผ่านแอพพลิเคชัน SCBAM Fund Click และนักวางแผนการลงทุนอิสระ (IIP) ของ SCBAM และ SCB Easy หรือ ช่องทางให้บริการอื่นๆ ของธนาคารไทยพาณิชย์ และเลือกลงทุนในหนึ่งกองทุนรวมด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 5,000 บาท ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ซึ่ง SCBAM มีกองทุนร่วมรายการ(**) ที่หลากหลายและครอบคลุมทุกประเภทสินทรัพย์ทั่วโลก จึงสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ลงทุนได้มากที่สุด จากนั้นร่วมสร้างวินัยการออมแบบสม่ำเสมอ (Dollar-Cost-Average: “DCA”) เดือนละ 500 บาทขึ้นไป 12 เดือนต่อเนื่องกัน ในกองทุนเดียวกัน ผ่านช่องทางเดียวกัน ซึ่งสามารถเริ่มลงทุนสะสมครั้งแรกได้ภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2566 โดยผู้ลงทุนต้องถือครองหน่วยลงทุนทั้งหมดจนสิ้นสุดระยะเวลาส่งเสริมการขาย หรือ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567

นางสาวศุภรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การออมเงินผ่านกองทุนรวมเป็นทางเลือกที่สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ใช้เงินลงทุนน้อย และสะดวก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เริ่มสนใจการลงทุน เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญคอยบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนให้ สำหรับการลงทุนในกองทุนรวมโดยทั่วไปแล้ว สามารถเลือกลงทุนได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งหากเริ่มสร้างวินัยเก็บออมและนำมาลงทุนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว จะทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายได้อย่างแน่นอน”

(*)ผู้ที่เปิดบัญชี ต้องเป็นผู้ลงทุนใหม่ที่เป็นบุคคลธรรมดาประเภทบัญชีเดี่ยว ที่ไม่เคยมีบัญชีกองทุนกับ บลจ.ไทยพาณิชย์ (ทั้งที่เปิดผ่าน บลจ. และ ผู้สนับสนุนการขายทุกช่องทาง)

(**)กองทุนรวมที่มีเฉพาะค่าธรรมเนียมการซื้อ (Front-end Fee) และไม่รวมกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์

รายละเอียดของแคมเปญและการมอบหน่วยลงทุน รวมถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่นจะเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://scbam.info/3P6sSVO กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน เสี่ยงที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุน ทั้งนี้ การลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลกองทุน หรือดูรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติม ได้ที่ www.scbam.com หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการที่ บลจ.ไทยพาณิชย์ โทร. 02-777-7777

สนใจเปิดบัญชีลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ได้ที่ https://scbam.link/scbam_fund_click

Related

Lastest